Gooner Journey: ไข 4 จุดพา ‘ปืนใหญ่‘ คืนฟอร์มลุ้นแชมป์
จากเกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดโรงเชือด ลิเวอร์พูล 3-1 ส่งผลให้สื่อหลายสำนักกลับมาฉายแสงในเส้นทางแห่งการลุ้นแชมป์ของ อาร์เซนอล อีกครั้ง!
ชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันในลีกของ ‘พลพรรคปืนโต‘ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลังก่อนหน้านี้พวกเขาต้องคอตกในช่วงส่งท้ายปีจากความปราชัยถึง 3 เกมซ้อน และนี่คือสิ่งผมมองเห็นถึงการพัฒนา แก้ไขและปรับปรุงของ ‘มิเกล อาร์เตต้า‘
1.ไม่ดื้อดันทุรังอีกอีกต่อไป
แน่นอนว่าข้อนี้หมายถึงระบบที่
‘กุนซือชาวสเปน‘
เคยยึดติดมากจนแฟนบอลหลายคนต่างพากันเบื่อหน่าย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในตัวของนักเตะคนใดคนหนึ่งจนออกนอกหน้า ความเชื่อที่ว่าหากมีผู้เล่นคนนี้อยู่ในทีมแล้วจะสามารถพาทีมคว้าชัยชนะได้ แต่ใน 4 เกมหลังสุดเราเห็นแล้วว่า เขาได้ถอดจุดอีโก้ตรงนี้ลงและยอมรับกับการเลือกนักเตะตามระบบการเล่นของคู่แข่งเพื่อแก้ทาง จนนำมาซึ่ง 12 คะแนนเต็ม
2.ปรับจูนแผนการเล่นตามสไตล์ของคู่แข่ง
ในเกมกับ ลิเวอร์พูล เราเห็นได้ชัดว่า อาร์เตต้า เลือกใช้
‘ไค ฮาแวร์ตซ์‘
ลงสนามในตำแหน่งหน้าเป้าเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากการขาดหายไปของ กาเบรียล เฆซุส ซึ่งแน่นอนว่าเขาคิดมาดีแล้ว! ฮาแวร์ต เป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างสูง เก็บบอลไว้กับตัวได้ดี และโดดเด่นเรื่องการดึงตัวประกบ และนั่นจึงทำให้การสอดแทรกทะลุทะลวงแนวรับของ
‘บูกาโย่ ซาก้า‘
และ
‘กาเบรียล มาร์ติเนลลี‘
ที่ทำตัวเสมือนเสือที่ได้กลิ่นคาวเลือดอยู่ตลอดทั้ง 90 นาที ได้สำแดงฤทธิ์ที่อันตรายแบบเต็มขีดแดง หรือแม้กระทั่งในช่วงครึ่งหลังของเกมที่ อาร์เซนอล เน้นการวางบอลยาวจาก 2 คู่เซ็นเตอร์ข้ามแดนกลางของสนามเพื่อให้ ฮาแวร์ตซ์ ได้ใช้ประโยชน์จากลูกกลางอากาศ ซึ่งเอาเข้าจริงแท็คติกนี้มันได้ผลตั้งแต่เกมที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วล่ะ
3.ค้นพบวิธีการเล่นโดยไม่ต้องพึ่งพาตำแหน่งเบอร์ 9
หลายเกมที่ผ่านมา อาร์เซนอล มักจะหมดมุกและเจาะคู่แข่งไม่เข้า หากในเกมนั้นศูนย์หน้าของพวกเขาโดนแนวรับของฝั่งตรงข้ามจับตายอยู่ตลอดทั้งเกม แต่ ณ ปัจจุบันในเวอร์ชั่น 2024 เหมือน อาร์เตต้า จะจับจุดอะไรได้บางอย่าง โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่บุกไปตะบันใส่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จนหน้าหงายถึง 6-0 ซึ่งเกมนี้เขาเลือกส่ง
‘ไค ฮาแวร์ตซ์‘
เจ้าเก่า และ
‘เลอันโดร ทรอสซาร์ด‘
ลงประสานงานในตำแหน่งหน้าเป้าและ False 9 แบบสลับกันวิ่งขึ้น-ลงตลอดทั้ง 90 นาที แต่มันก็น่าประหลาดใจยิ่งนัก เมื่อทั้งคู่ต่างก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เหมือนคนตรัสรู้ที่เข้าใจกลยุทธ์จุดนี้อย่างถ่องแท้ แสดงว่าพวกเขาต้องถูกฝึกเกลาราวกับว่านี่คือธีลิสของเหล่าบัญฑิตที่เตรียมจบการศึกษา และนี่แหละคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้กองหลังของ ทัพขุนค้อน ปั่นป่วนชวนอ้วก จับต้นชนปลายไม่ถูก สับสนอลเวง อลหม่าน เอ้ย!พอแล้ว
4.เล่นเกมรับเป็น ตั้งแต่ในแดนของคู่แข่ง
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าผู้เล่นอย่าง
‘มาร์ติน โอเดการ์ด‘
คือมันสมองของ อาร์เซนอล ในเกมรุกอย่างแท้จริง แต่ในทางกลับกัน นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของเกมรับในยามที่คู่แข่งครองบอลเตรียมบุกเข้าใส่พวกเขา การทำหน้าที่ของแผงเกมรุกตั้งแต่แดนบน ที่ไล่บีบ ไล่เพรสซิ่งอย่างรู้หนักรู้เบา ส่งผลให้งานของแดนกลางไปจนถึงแดนหลังค่อยๆลดความกดดันและความยากเหนือสิ่งอื่นใดลงไป ยิ่งไปกว่านั้นหากคู่ต่อสู้ผ่านเส้นกลางสนามมาได้ก็ต้องเจอกับคู่หูปราการหลังอย่าง
‘กาเบรียล มากัลเญส‘
และ
‘วิลเลี่ยม ซาลิบา‘
ที่พร้อมปะทะในทุกจังหวะของเกม นั่นจึงทำให้ความเสถียรของทีมเกิดขึ้นตั้งแต่หน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง
16 ประตูจาก 4 เกมหลังสุดของ อาร์เซนอล มันพิสูจน์แล้วว่า ณ เวลานี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งสตาร์คนใดคนหนึ่งอีกต่อไป ทุกคนพร้อมโดดเด่นเท่าเทียมกัน และสิ่งนี้เองที่ตอกย้ำถึงศักยภาพของการกลับมาลุ้นแชมป์ในฤดูกาลที่แสนสนุกเยี่ยงนี้ของเหล่า ‘เดอะ กูนเนอร์ส‘
เขียนโดย Save Par
The Lite Team.